มีการวิจัยว่าสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่สำคัญอื่นๆ อาจลดความเสี่ยงของต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมได้ โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น วิตามิน A ช่วยป้องกันการตาบอดและวิตามิน C ช่วยป้องกันหรือบรรเทาโรคต้อหินได้
กรดไขมันจำเป็นอย่างโอเมก้า 3 สามารถช่วยดวงตาได้หลากหลาย ตั้งแต่การบรรเทาอาการของโรคตาแห้งจนถึงการป้องกันความเสียหายที่จอประสาทตา
ประโยชน์ของวิตามินและสารอาหารต่อดวงตา
วิตามินแร่ธาตุและสารอาหารอื่น ๆ ต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่ามีความจำเป็นเพื่อช่วยให้การมองเห็นที่ดีและอาจปกป้องดวงตาจากโรคต่างๆ ได้
การรวมอาหารต่อไปนี้ในมื้ออาหารของคุณตามปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวัน (RDA) ก่อตั้งขึ้นโดยสถาบันแพทยศาสตร์ (National Academy of Sciences) RDA หรือ Recommended Dietary Allowances คือระดับการบริโภคอาหารโดยเฉลี่ยต่อวันโดยกำหนดปริมาณสารอาหารที่แต่ละคนควรได้รับ
ผู้ดูแลสุขภาพตาบางคนแนะนำให้บริโภคสารอาหารบางอย่างในแต่ละวันสำหรับคนที่มีปัญหาด้านสายตา
(ในรายการต่อไปนี้ mg = milligram; mcg = microgram (1/1000 ของ mg) และ IU = หน่วยสากล
เบต้าแคโรทีน ประโยชน์ต่อดวงตา : เมื่อทานร่วมกับสังกะสีและวิตามินซีและอี เบต้าแคโรทีนอาจช่วยลดการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา พบได้ใน : แครอท มันหวาน ผักโขม ผักคะน้า ถั่วบางชนิด RDA: None (แนะนำที่ 5,000 ถึง 25,000 IU).
ไบโอฟลาโวนอยด์ ประโยชน์ต่อดวงตา : ป้องกันต้อกระจกและการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา พบได้ใน : ชา ไวน์แดง ผลไม้รสเปรี๊ยว บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง RDA : none
ลูทีนและซีแซนทีน ประโยชน์ต่อดวงตา : ป้องกันต้อกระจกและการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา พบได้ใน : ผักโขม ผักตะน้า หัวผักกาดเขียว กระหล่ำปลี RDA : none
โอเมก้า 3 ประโยชน์ต่อดวงตา : ป้องกันการเสื่อมสภาพของจอประสาทตาและตาแห้ง พบได้ใน : ปลาน้ำเย็น เช่น แซลม่อน ปลาแมคเคอเรล น้ำมันปลา เมล็ดแฟลกซ์สด วอลนัท RDA : None แต่แนะนำที่ 1,000 mg ต่อวัน
เซเลเนียม ประโยชน์ต่อดวงตา : เมื่อทานร่วมกับแคโรทีนอยด์และวิตามินซีและอีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา พบได้ใน : อาหารทะเล (กุ้ง ปู แซลม่อน) ถั่วบลาซิล ข้าวกล้อง RDA: 55 mcg สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ (60 mcg สำหรับสตรีตั้งครรถ์ และ 70 mcg เมื่อให้นมบุตร)
วิตามินเอ ประโยชน์ต่อดวงตา : ช่วยป้องกันอาการตาบอดตอนกลางคืนและตาแห้ง พบได้ใน : เนื้อวัว เนื้อไก่ ไข่ เนย นม RDA: 3,000 IU สำหรับผู้ชาย 2,333 IU สำหรับผู้หญิง (2,567 IU ระหว่างตั้งครรถ์ และ 4,333 IU เมื่อให้นมบุตร)
วิตามินซี ประโยชน์ต่อดวงตา : อาจช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นต้อกระจกและการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา พบได้ใน : พริกหวาน(แดงหรือเขียว) คะน้า สตรอเบอร์รี่ บล็อกเคอร์รี่ ส้ม แคนตาลูป RDA: 90 mg สำหรับผู้ชาย 70 mg สำหรับผู้หญิง (85 mg ระหว่างตั้งครรถ์ และ 120 mg เมื่อให้นมบุตร)
วิตามินดี ประโยชน์ต่อดวงตา : อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา พบได้ใน : ปลาแซลม่อน ปลาซาดีน ปลาแมคเคอร์เรล นม น้ำส้มเสริมวิตามินดี RDA: None, แต่แนะนำที่ 400 IU ต่อวัน แหล่งวิตาวินดีที่ดีที่สุดคือ แสงแดด หรือรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ เพียงตากแดดชั่วครู่ (โดยไม่ทาครีมกันแดด) ร่างกายก็จะได้รับวิตามินดีอย่างพอเพียง
วิตามินอี ประโยชน์ต่อดวงตา : เมื่อทานร่วมกับแคโรทีนอยและวิตามินซีอาจจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา พบได้ใน : อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน เฮเซลนัท RDA: 15 mg สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ (15 mg สำหรับสตรีตั้งครรถ์ และ 19 mg เมื่อให้นมบุตร)
สังกะสี ประโยชน์ต่อดวงตา : ช่วยวิตามินเอลดความเสี่ยงของการเป็นตาบอดตอนกลางคืน และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา พบได้ใน : หอยนางรม เนื้อวัว ปู(Dungeness crab) ไก่งวง(เนื้อดำ) RDA: 11 mg สำหรับผู้ชาย 8 mg สำหรับผู้หญิง (11 mg ระหว่างตั้งครรถ์ และ 12 mg เมื่อให้นมบุตร).
แปลจาก
รูปจาก
เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ^^
เป็นประโยชน์มากกกกก
กินอย่างเดียวเลยครับ555
วิตามิน เอ วิตามิน ซี เห็นโฆษณาบ่อย กินแล้วได้ผลดีไหมก็ไม่รู้