การสูบบุหรี่ทำร้ายดวงตาได้อย่างไร

การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดของการเกิดโรคและการเสียชีวิตในอเมริกา มันทำร้ายทุกๆ อวัยวะใกล้เคียงทั้งหมดในร่างกาย รวมถึงดวงตาด้วย

ผลกระทบต่อสุขภาพของการสูบบุหรี่ เช่น โรคหัวใจและโรคปอดเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แต่ผลกระทบต่อการมองเห็นและปัญหาต่อดวงตากลับไม่ค่อยมีผู้รับรู้มากนัก
ต่อไปนี้จะเป็นเหตุผลที่คุณควรเลิกบุหรี่

การสูบบุหรี่และต้อกระจก

ต้อกระจก (การขุ่นมัวของเลนส์ในดวงตา) เป็นสาเหตุสำคัญของการตาบอดของประชากรทั้งหมดทั่วโลก ในอเมริกามากกว่าร้อยละ 50 ของผู้สูงอายุ 80 ปี จะเป็นต้อกระจกหรือต้องได้รับการผ่าตัดต้อกระจก

ผู้ที่สูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ จากการสำรวจพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นสองเท่าในการเสี่ยงเป็นต้อกระจกมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ

การสูบบุหรี่และจอประสาทตาเสื่อม

อายุมีผลต่อจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งส่งผลกระทบต่อเรติน่าที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการโฟกัสภาพในคมชัด มีความจำเป็นต่อการอ่านหนังสือและการขับรถ
การเสื่อมสภาพของจอประสาทตาทำให้เกิด “จุดบอด” และมักจะทำให้การมองเห็นแย่ลงอย่างมาก จอประสาทตาเสื่อมเป็นสาเหตุหลักในการตาบอดของผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไปในอเมริกา

ในการสำรวจพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นจอประสาทตาเสื่อมมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึงสามเท่า และผู้หญิงที่สูบบุหรี่ในวัย 80 ปี มีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ที่ไม่สูบในวัยเดียวกันถึง 5.5 เท่า

แต่นั่นยังไม่ใช่ข่าวร้ายทั้งหมด เพราะว่าการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดซึ่งควบคุมได้ยากต่อการเกิดจอประสาทตาเสื่อม ดังนั้นการเลิกสูบบุหรี่ในทุกเพศทุกวัยจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดได้

การสูบบุหรี่และม่านตาอักเสบ

ภาวะม่านตาอักเสบ (ภาวะที่มีการอักเสบของเนื้อเยื่อชั้นกลางภายในลูกตา) เป็นโรคตาที่รุนแรงมาก เสี่ยงต่อตาบอดได้

ม่านตาอักเสบเป็นอันตรายต่อโครงสร้างสำคัญของดวงตา รวมทั้งม่านตาและจอประสาทตา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น ต้อกระจก ต้อหิน และจอประสาทตาเสื่อมได้
จากการสำรวจพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสในการเป็นมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และมีโอกาสมากกว่าคนทั่วไป 2.2 เท่าในการเกิดโรค

การสูบบุหรี่และเบาหวานขึ้นจอประสาทตา

เบาหวานขึ้นจอประสาทตาจะทำลายหลอดเลือดและอาจส่งผลต่อการมองเห็นจนเสี่ยงตาบอดได้

ชาวอเมริกันมากกว่า 5 ล้านคน เมื่อมีอายุมากกว่า 40 ปีจะเสี่ยงจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากเบาหวานชนิดที่ 1 หรือเบาหวานชนิดที่ 2 และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านคนภายในปี 2593 ตามศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา การสูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานถึง 2 เท่า

นอกจากนี้ยังมีภาวะแทนกซ้อนระหว่างการสูบบุหรี่และเบาหวานขึ้นจอประสาทตาอีกมากมาย

การสูบบุหรี่และอาการตาแห้ง

อาการตาแห้งคือ อาการน้ำตาไม่เพียงพอต่อการหล่อลื่นดวงตา ผู้ที่มีอาการตาแห้งอาจเกิดอาการตาแดง คัน และรู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตาได้ ซึ่งก็อาจเกิดขึ้นได้แม้ในดวงตาปกติ

ควันบุหรี่เป็นสิ่งที่ทำให้ระคายเคืองตา และทำให้ตาแห้งมากขึ้น แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่เองโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สวมคอนแทคเลนส์ ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีอาการตาแห้งมากขึ้นเกือบสองเท่า และมีแนวโน้มที่จะตาบอดมากขึ้นในวัยชราถึงสี่เท่า

การสูบบุหรี่และโรคตาในทารก

ผู้หญิงที่สูบบุหรี่ในระหว่างตั้งครรภ์จะส่งสารพิษที่อันตรายผ่านรกไปสู่ทารกได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กมาก และยังเพิ่มโอกาสการเกิดความผิดปกติต่อดวงตาของทารกในครรภ์รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ตาเหล่ และการพัฒนาของเส้นประสาทตาซึ่งเป็นสาเหตุของอาการตาบอดในเด็ก

นอกจากนี้ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะคลอดก่อนกำหนด ทารกที่คลอดก่อนกำหนดก็มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่างๆ มากกว่าทารกที่คลอดตามกำหนดปกติ
ปัญหาการมองเห็นของทารกที่คลอดก่อนกำหนดเช่น จอประสาทตาเสื่อมอาจทำให้ตาบอดได้

แปลจาก

https://www.allaboutvision.com/smoking/

รูปจาก

https://images.ctfassets.net/u4vv676b8z52/585kxq1UzWsFcUEG1HOSu1/0fb8b6f499b9d3e30fff37ea8016c8f4/hand-crushes-cigarettes-1200×630.jpg?fm=jpg&q=80

https://images.ctfassets.net/u4vv676b8z52/1cOvMEHVNqgexw5oJ7LS8x/0a6fc564644b003b525e541aaa3c8aee/promo-smoking-250x194_1.25x.png?fm=jpg&q=80

3 ความเห็น

  1. ไม่ใช่คนสูบบุหรี่ อ่านแล้วได้ความรู้มากเลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *