เที่ยวชมงานแสดงสินค้าที่กว่างโจว
ช่วงจัดงาน มี2 ช่วงในทุกหนึ่งปี ช่วงแรก ประมาณเดือน มีนาคม- เมษายน ช่วงสอง ประมาณเดือน ตุลาคม- พฤศจิกายน จองตั๋วขึ้นเครื่องบินไปได้เลย (คราวหน้าจะพูดถึงการเดินทางจากไทยไปกวางโจว)
ในแต่ละช่วงจะแบ่งเฟสย่อยลงไปอีกเป็นวันที่เท่าไหร่สินค้าประเภทไหนลงบูทที่เท่าไหร่ และอยู่อาคารไหน สนใจสินค้าประเภทไหนดูวันและอาคารให้ดี เพราะแต่ละอาคารมีหลายชั้นและใหญ่มาก มีหลายอาคาร(ถ้าเดินหมดทุกอาคารต้องเดินหลายวัน)เช่นอาคาร A B C D เตรียม เสื้อผ้า รองเท้า ที่ใส่สบาย พร้อมเป้ใส่เอกสารติดตัว และนามบัตรเพื่อไปแลกกับบริษัท ต่างๆที่สนใจสินค้า
การเดินทาง
เดินทางออกจากที่พักก่อน9โมงเช้ามีรถรับส่งฟรีหลายจุด หรือบางโรงแรมก็มีรถรับส่งฟรีต้องสอบถามดูเอาเองส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมใหญ่ๆ ตัวอย่างจุดขึ้นรถฟรี เช่น หน้าโรงแรม กวางโจว ถามดูก่อนนะว่าคันไหนรถฟรีของงานเพราะมีรถฟรีของโรงแรมด้วย เขาจะบริการเฉพาะแขกโรงแรมเขาเท่านั้น คนนอกไม่ให้ขึ้น
ถ้าไม่ไปรถฟรี ก็รถไฟฟ้าใต้ดินมีสายที่ไปถึงหรือผ่านใกล้ๆ ที่จัดงานแล้วต่อสายที่ไปถึงงานแล้วแต่ว่าพักอยู่แถวย่านไหน เช่น สาย8 นี่ถึงเลย ถ้าสายอื่นก็มาต่อสาย 8 อีกที
อีกวิธีหนึ่งก็แท็กซี่ ไม่อยากแนะนำเพราะแพง
ถึงหน้างาน ถ้าได้บัตรห้อยคอแล้วก็ผ่านประตูเข้าได้เลย แต่บางคนยังไม่มีหรือไม่ได้ตั้งใจไปงานแต่ไปแล้วตรงช่วงงานเลยอยากดูก็ไปทำบัตรผ่านได้
วิธีทำบัตรผ่าน มีหลายวิธี
1.สมัครในเวปของงาน แล้วเขาจะตอบรับกลับมาให้ปริ้นเอกสารไปยื่นที่ทำบัตรพร้อมรูปถ่าย2นิ้ว ก็จะได้บัตรห้อยคอมาฟรี (ต้องสมัครล่วงหน้าเผื่อไว้สัก 2-3 เดือน ก่อนไปงาน)
2.สมัครหน้างานเตรียมรูปถ่าย 2 นิ้ว พร้อมพาสปอร์ต ยื่นที่ทำบัตร (มีที่ถ่ายรูปแต่ค่าบริการแพง) เสียค่าบริการ 200 หยวน ก็จะได้บัตรห้อยคอในเวลาไม่นาน เก็บบัตรไว้ให้ดี บัตรใช้ได้ตลอดชีวิตถ้าหายทำใหม่ต้องเสียเงิน 200 หยวน
สถานที่ทำบัตร อยู่อาคารด้านหลัง ถ้าเข้าด้านหน้าเดินไกลมาก (ส่วนใหญ่รถฟรีจะไปส่งด้านหน้า) สถานีรถไฟจะอยู่ด้านขวามือเมื่อยืนหันหน้าเข้าอาคารหน้างาน หลังจากได้บัตรห้อยคอแล้ว (บัตรต้องห้อยคอตลอดเวลาที่อยู่ในงาน) ก็เข้าสู่อาคารบริเวณจัดงานตามสินค้า วันเวลาและตึกที่จัดงานที่เราสนใจได้เลย
สิ่งที่ต้องนำติดตัวเข้าไปในงานด้วย
- กระเป๋าที่สะพายไว้ด้านหน้าได้ (เพื่อความปลอดภัยจากมิจฉาชีพ) เอาไว้ใส่เอกสารสำคัญประจำตัว
- นามบัตรตัวเอง เอาไว้แลกโบว์ชัวร์ ของแจก หรืออื่นๆจากร้านหรือโรงงานที่สนใจและเข้าไปคุยด้วยเขาจะถามหานามบัตรก่อนเพื่อแสดงความน่าเชื่อถือเบื้องต้น
- กระเป๋าลาก เตรียมไปใส่เอกสารต่างๆที่ขอมาจากบูทต่างๆ ถ้าสนใจหลายบูทเอกสารก็จะเยอะด้วยซึ่งมันหนักมากหอบไม่ไหวแน่ๆ เว้นแต่ว่าจะไม่ขอเอกสารใดๆเลย เดินดูอย่างเดียวหรือขอเฉพาะที่สนใจจริงๆ (ถ้าโชคดีจะเจอบริษัทที่มาโปรโมทสินค้าด้วยกระเป๋าล้อลาก)
ที่กิน เป็นโซนศูนย์อาหาร ถ้าหันหน้าเข้าตึกหน้างาน โซนอาหารจะอยู่ตึกด้านซ้ายมือของตึกหน้างาน ราคาก็กลางๆ รสชาดก็พอกินแก้หิวได้ แบ่งเป็นร้านค้าแต่ละร้านว่าใครขายอะไร เช่น ข้าวราดแกง พิชซ่า บะหมี่ เลือกช่วงกินก่อน 11 โมงเช้าที่นั่งจะยังว่างถ้าถึงเที่ยงคนจะเยอะเข้าคิวซื้อยาวและหาที่นั่งยาก
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเข้าไปในงานแล้ว
มองหาโต๊ะหรือจุดประชาสัมพันธ์ของงาน ขอโบว์ชัวร์ แผนผังของงานก่อน และในเล่มนั้นจะมีหน้าที่ฉีกไปแลกของที่ระลึกประจำปีที่จัดงานได้ด้วย ต่อมาก็ดูแผนผังงานให้ละเอียดและเข้าใจจะได้ไม่เดินหลงจะเสียเวลามาก (อย่าหลงเดินออกทางออกเพราะจะเสียเวลาเดินอ้อมกลับไปทางเข้าใหม่ ซึ่งมันไกล)
ระหว่างอาคารจะมีรถคล้ายๆรถกอล์ฟวิ่งรับส่งฟรีแต่คนรอคิวยาวมาก
ต่อไปก็เชิญท่านเดินเที่ยวชมสินค้าที่ท่านสนใจในงานได้เลย
โชคดีทุกๆท่าน แล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไป